หุ้นไทยร้อนแรง… ความผันผวนสูงขึ้น เทรด DW ยังไงให้ “เอาอยู่” โดย Bualunag Securities


หลังจากดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 23 ปีได้ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 1,650 จุดและสามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง และยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเมื่อในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคมที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวผ่าน  “เช็คพอยน์” ของหลายๆคนที่ 1,700 จุดได้ แม้จะมีแรงขายทำกำไรจนดัชนีปรับลดลงมาต่ำกว่า 1,700 จุด แต่ด้วยตลาดที่มีความผันผวนมากขึ้นถือเป็นโอกาสในการเก็งกำไรด้วย DW เพราะนักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากอัตราทดของ DW และยังสามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง จึงหันมาให้ความสนใจในการลงทุน DW กันอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตามหลายคนตั้งคำถามว่าตลาดอยู่โซนนี้ที่มาพร้อมความผันผวนที่สูงขึ้น เทรด DW ยังไงให้ปลอดภัย… มาดูเคล็ดลับง่ายๆที่จะทำให้เราเทรด DW ในตลาดแบบนี้ให้ “เอาอยู่”
หุ้นไทยร้อนแรง
  1. อย่าสวน – ถ้าไม่มั่นใจจริงๆอย่าไปสวนตลาด… หากคนส่วนใหญ่มองว่าตลาดเป็นช่วงขาขึ้นก็ควรเน้นไปที่การเทรด Call DW เป็นหลัก โดยอาจมองไปที่ Call DW บนหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกสนับสนุนราคาหุ้นแม่รวมถึงแรงหนุนจากนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ แม้บางคนอาจมองว่าหุ้นอาจปรับตัวลงได้ แต่ถ้าตลาดอยู่บนเทรนด์ขาขึ้นจริง การปรับตัวลงส่วนใหญ่ก็จะเป็นการย่อลงในระยะสั้นเพื่อปรับตัวขึ้นต่อไป ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนใน Put DW บนหุ้นที่อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นอย่างชัดเจน

  2. Call เสื่อมช้ากว่า Put – ในตลาดขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่แล้ว Call DW จะมีค่าเสื่อมเวลาต่ำกว่า Put DW ทำให้เราสามารถถือครอง DW ได้นานกว่า ค่าเสื่อมเวลาเป็นปัจจัยที่สำคัญอันดับต้นๆในการลงทุน DW เพราะเราสำรวจพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ถือครอง DW แค่ 1-2 วันต่อการเทรด 1 ครั้ง ทำให้ระยะถือครองมีผลกับผลตอบแทนการเทรด DW อย่างมีนัยยะ ดังนั้นถ้าตลาดอยู่บนเทรนด์ขาขึ้นจริงนอกจากไม่ควรสวนเล่น Put DW แล้ว ส่วนใหญ่แล้วการลงทุนใน Call DW จะทำให้มูลค่า DW ลดลงจากค่าเสื่อมเวลาได้ช้าลงด้วย

  3. บริหารหน้าตักให้ดี – ไม่ว่าจะสภาวะตลาดแบบไหนหรือลงทุนอะไรก็ตาม การบริหารเม็ดเงินบนหน้าตักเราให้มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็น วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยพูดไว้ว่า “Do not put all eggs in one basket” หรืออย่าเอาไข่ที่มีทั้งหมดใส่ในตระกร้าใบเดียว นิสัยรายย่อยส่วนใหญ่ก่อนเทรดชอบมองด้านเดียวคือมองฝั่งกำไรแล้วหลับตาข้างนึงมองด้านขาดทุน… ทำให้มีความ “กล้า” เกินไปที่จะใส่เงินจำนวนเยอะเกินต่อการเทรด 1 ครั้งจนไม่เหมาะกับขนาดพอร์ตโดยรวมได้ ถ้ากำไรก็ดีไปแต่ถ้าขาดทุนจะเจ็บหนัก ดังนั้นสิ่งจำเป็นก่อนการเทรด DW ทุกครั้งคือการบริหารเงินในการเทรดให้ดี อย่าใส่หมดหน้าตักไปกับตัวเดียว ยิ่งส่วนใหญ่ชอบเล่นตัวอัตราทดแรงๆที่มาพร้อมค่าเสื่อมเวลาโหดๆยิ่งต้องระวัง หากเทหมดหน้าตัก พลาดทีจะเจ็บหนักจากเงินทั้งก้อนนะครับ

  4. Plan & Stick to the Plan – นอกจากวางแผนการเทรด DW ให้ดีแล้ว ยังต้องมีวินัยให้ทำตามแผนด้วยจึงจะได้ผลลัพธ์ที่เราคาดหวัง ง่ายๆคือกำหนดจุด Take Profit และ Cut Loss ให้ชัดเจน จะทำให้เราถึงเป้าหมายได้ (หุ้นแม่วิ่งถูกทาง) หรือทำให้เราไม่ขาดทุนมากจนเกินไป (หุ้นแม่วิ่งผิดทาง) โดยอาจใช้เครื่องมือ Bualuang iAlgo เข้ามาช่วยสร้างวินัยด้วยระบบในการซื้อขายที่จุด Take Profit หรือ Cut Loss ได้
เทรด DW ต้องรอบรู้และรอบครอบ ด้วยบรรยากาศตลาดตอนนี้หลายคนคิดว่ามี “เทรนด์ขาขึ้น” แต่ในขณะเดียวกันหลายคนก็ “กลัว” ตลาด การเทรด DW เป็นการเก็งกำไรระยะสั้นๆ ดังนั้นหากรู้สถานการณ์ดีพอ เข้าใจปัจจัยต่างๆในการเก็งกำไรระยะสั้น และรู้หน้าตักตัวเอง จะทำให้เราบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น…ซึ่งการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพจะนำมาซึ่งโอกาสที่จะเทรดได้ประสบความสำเร็จได้ดีขึ้น
end dw

ที่มา เพจ Bualuang Securities

สิ่งที่ได้จากบทความนี้

  • DW สามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
  • อย่าสวนแนวโน้มถ้าไม่มั่นใจจริงๆ
  • CALL DW จะเสื่อมข้ากว่า PUT DW
  • ควรมี money management บริหารเงินและบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม ไม่ควรลงหนักจนพอร์ตไปต่อไม่ไหว
  • เทรดอย่างมีแบบแผนและมีวินัย มีจุด cut loss และ take 
แล้วคุณล่ะ ได้อะไรจากบทความนี้บ้าง มาแชร์กันนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“เปิดปั๊มน้ำมัน ปตท ลงทุนเท่าไหร่” กู้ที่ไหนได้บ้าง?

ประหยัดค่าไฟจากตู้เย็น ด้วยการตรวจสอบยางตู้เย็นแบบง่ายๆ

มาม่า ยำยำ ไวไว ใครขายดีสุด? / โดย เพจลงทุนแมน