กระต่าย กับ เต่า / โดย เพจ กอง-ทุน-แมน

Protégé Partners VS Warren Buffett
เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในปี 2008 Warren Buffett ได้ไปท้าเดิมพันกับธุรกิจ hedge fund ซึ่งตัวเขาเองนั้นมองว่าพวก hedge fund มักจะคิดค่าบริหารที่แพงมากๆในขณะที่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้คุ้มค่ากับเงินที่ผู้ลงทุนต้องจ่าย
ดังนั้นแทนที่จะไปลงทุนใน hedge fund ที่คิดค่าบริหารแพงๆ สู้ไปซื้อ S&P500 index fund ยังจะดีซะกว่า
สำหรับผู้ที่มาเดิมพันด้วยนั้นคือบริษัท Protégé Partners LLC
Protégé Partners LLC นี้เป็นบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์และที่ปรึกษาด้านการลงทุน โดยมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการเลือกหา hedge fund ที่ดีๆหรือผู้จัดการกองทุนเก่งๆ แล้วนำสินทรัพย์ไปให้ hedge fund เหล่านี้ลงทุนต่อ หรือก็คือเป็น fund of fund นั่นเอง
รายละเอียดของการเดิมพันมีดังนี้
Warren Buffett จะใช้ผลตอบแทนของกองทุน Vanguard's S&P 500 Admiral fund (VFIAX) ในการแข่ง
Protégé จะเลือก hedge fund มา 5 กอง (ไม่เปิดเผยชื่อ) แล้วใช้ค่าเฉลี่ยของทั้ง 5 กองนี้ในการแข่ง
ระยะเวลาของการเดิมพันนี้คือ 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2008 ไปสิ้นสุดที่วันที่ 31 ธันวาคม 2017
ผลตอบแทนของใครมากกว่าก็เป็นผู้ชนะ
ถ้า Warren Buffett ชนะ เงินเดิมพันนี้จะถูกนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิ Girls Incorporated of Omaha
ถ้า Protégé ชนะ เงินเดิมพันนี้จะถูกนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิ Friends of Absolute Return for Kids
เงินเดิมพันนั้นถูกออกแบบไว้ให้มีมูลค่า $1 ล้านใน 10 ปีหลังจากเริ่มเดิมพัน โดยวันที่เริ่มต้นนั้น ทั้ง 2 ฝั่งวางเงินเท่าๆกันรวมเป็นมูลค่า $640,000 แล้วนำไปลงทุนทิ้งไว้ในพันธบัตรตั๋วเงินคลัง (zero-coupon Treasury bonds) ซึ่งถูกประมาณไว้ว่าเงินก้อนนี้จะมีมูลค่า $1 ล้าน ณ วันที่สิ้นสุดการเดิมพันพอดี
Warren Buffett ใช้เงินส่วนตัว ไม่ได้เอาสินทรัพย์ของ Berkshire Hathaway Inc. มาเกี่ยวข้อง
ทีนี้มาดูผลการเดิมพันในช่วงที่ผ่านมากัน
ปี 2008 เกิดวิกฤติ Subprime ขึ้นทำให้ตลาดหุ้นของอเมริกามีมูลค่าลดลงอย่างมากมาย ซึ่งนั่นก็รวมไปถึง index fund อย่าง Vanguard's S&P 500 Admiral fund ด้วย โดยมูลค่าของทางฝั่ง Buffet นั้นลดลงไปมากถึง 37.0% ในขณะที่ hedge fund ของทางฝั่ง Protégé นั้นทำได้ดีกว่า (แย่น้อยกว่า) โดยมูลค่าลดลงไป 23.9%
ปี 2009 ถึง 2014 เป็นช่วงที่ฝั่ง Buffet ทำได้ดีกว่า โดยมีผลตอบแทนชนะฝั่ง Protégé ตลอด 5 ปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องใช้เวลามากถึง 4 ปีในการที่จะกลับมาแซงหลังจากที่ขาดทุนไปตอนปี 2008
ปี 2015 ฝั่ง Protégé กลับมาชนะได้บ้างโดยมีผลตอบแทน 1.7% เทียบกับฝั่ง Buffet ที่ทำได้ 1.4%
ปี 2016 ฝั่ง Buffet ได้กำไร 11.9% ในขณะที่ฝั่ง Protégé ทำได้เพียง 0.9%
ปี 2017 นี้เป็นปีสุดท้ายของการเดิมพัน เพื่อให้เห็นสถานการณ์ตอนนี้ ขอสรุปผลของการแข่งขันนี้ตั้งแต่ต้นมาจนถึงต้นปี 2017 ดังนี้
ฝั่งของ Buffet นั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา 85.4%
ฝั่งของ Protégé นั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา 22.0% โดยผลตอบแทนของ hedge fund ทั้ง 5 กองนั้น คือ 8.7%, 28.3%, 62.8%, 2.7%, และ 7.5% (เฉลี่ยได้ 22.0%)
ถ้าดูตามสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ผมคงบอกได้แค่ว่าทางฝั่ง Protégé นั้นต้องการอะไรที่มากกว่าปาฏิหาริย์ในการที่จะกลับมาชนะเดิมพันได้
Warren Buffett ได้เขียนลงใน shareholder letter ของเขาว่า แม้ว่าเขาจะเชื่อว่าผู้จัดการกองทุน hedge fund นั้นเก่งและมีจรรยาบรรณ แต่ด้วยค่าบริหารที่สูงมาก (โดยทั่วไปคิด 2% ของมูลค่าสินทรัพย์ บวกกับอีก 20% จากกำไร) ทำให้มันไม่คุ้มเลยกับคำแนะนำที่เข้าใจยากและไม่ค่อยมีประโยชน์
ทางฝั่ง Protégé นั้นมองต่างกันและอธิบายว่า จุดมุ่งหมายของ hedge fund นั้นคือการที่จะทำกำไรในทุกสภาพตลาด ไม่ใช่การชนะตลาด
Jeff Tarrant ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Protégé Partners LLC ก็ได้ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ แต่อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าแม้ว่าฝั่งเขาจะแพ้ในการเดิมพันแต่เขาก็รู้สึกเหมือนกับเป็นผู้ชนะ เพราะว่าตลอด 9 ปีมานี้เขา (และเพื่อนๆ) ได้มีโอกาสไปนั่งกินข้าวกับนักลงทุนชื่อดังอย่าง Warren Buffett ซึ่งโดยทั่วไปนั้นในการประมูลเพื่อที่จะได้ไป “Lunch with Mr Buffett” นั้นผู้ชนะต้องใช้เงินหลายล้านดอลล่าเพื่อที่จะได้ไปซักครั้ง แต่ในการเดิมพันนี้ฝั่ง Protégé วางเงินเพียงแค่ประมาณ $3 แสนกว่าๆ เท่านั้น
การเดิมพันนี้ก็อาจจะเหมือนกับนิทานอีสปเรื่องกระต่ายกับเต่า
กองทุน hedge fund นั้นพยายามที่จะเพิ่มผลตอบแทนโดยการไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เข้าใจยากบวกกับการใช้ตราสารอนุพันธ์ แล้วก็มาคิดค่าบริหารกับนักลงทุนแพงๆสำหรับความพยายามเหล่านี้
ส่วนเต่าอย่าง passive fund ไม่ได้สนใจกับสิ่งต่างๆที่เป็นเรื่องระยะสั้น แต่กลับมุ่งมั่นที่จะค่อยๆเพิ่มมูลค่าของตัวเองไปเรื่อยๆ
การเรื่องนี้ก็มีจุดหักมุมอยู่ ในปี 2008 ที่เกิดวิกฤติ Subprime นั้น ดอกเบี้ยได้ลดลงอย่างมาก สินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ก็เลยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงเงินเดิมพันที่ถูกทิ้งไว้พันธบัตรตั๋วเงินคลังด้วย โดยในปี 2015 เงินก้อนนี้ได้โตขึ้นมา 119% มีมูลค่าเป็น $1.4 ล้าน
หลังจากนั้นทั่ง 2 ฝั่งได้ตกลงกันว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนใน Berkshire B-shares แทน ซึ่งก็มีผลตอบแทนเพิ่มมาอีก 29.3% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา
สรุปแล้วเงินเดิมพันก้อนนี้ที่วางไว้กลับมีผลตอบแทนชนะทั้งฝั่ง Buffett และ Protégé อย่างขาดลอย..
สรุปผู้ชนะแท้จริงไม่ใช่ทั้งกระต่าย และ เต่า..

ที่มา เพจ ลงทุนแมน

สิ่งที่ได้จากบทความนี้
  • กองทุนที่อ้างอิงตามดัชนีตลาดมีโอกาสชนะกองทุนที่พยายามเอาชนะตลาดได้ เพราะองค์ประกอบของความผันผวนของตลาดและค่าใช้จ่ายของการบริหารกองทุน
  • ในวิกฤตเศรษกิจ สินค้าทางการเงินอย่าง ตราสารหนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
  • การเดิมพันบ้างอย่างแม้จะมีโอกาสแพ้สูง แต่ในทางกลับกันอย่างได้สิ่งตอบแทนอื่นๆ อย่างเช่น ชื่อเสียง การกินข้าวกับ Warren Buffett ประสบการณ์และอื่นๆ
แล้วคุณได้อะไรจากบทความนี้ เชิญแชร์ใคอนเม้นเลยครับ ^^

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“เปิดปั๊มน้ำมัน ปตท ลงทุนเท่าไหร่” กู้ที่ไหนได้บ้าง?

ประหยัดค่าไฟจากตู้เย็น ด้วยการตรวจสอบยางตู้เย็นแบบง่ายๆ

มาม่า ยำยำ ไวไว ใครขายดีสุด? / โดย เพจลงทุนแมน